ข่าวล่าสุด





ชัยภูมิ จัดพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช

                    วันที่ 23 ตุลาคม 2557 เวลา 07.30 น. ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ (หลังเก่า) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน ชาวชัยภูมิทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันวางพวงมาลาหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อปวงชนชาวไทย

เนื่องด้วยในวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยพสกนิกรชาวจังหวัดชัยภูมิทุกฝ่าย ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายราชสดุดีน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่หลวงแก่ไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ทั่วขอบเขตขัณฑสีมาราชอาณาจักร พระราชจริยวัตรอันเปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรมอันประเสริฐ ยังความร่มเย็นเป็นสุขแก่พสกนิกรถ้วนหน้า และนำความเจริญรุ่งเรืองร่มเย็นเป็นสุข มาสู่ประเทศชาติอันเป็นเอนกประการ ซึ่งกล่าวโดยสรุปที่สำคัญคือ การดำเนินรัฐประศาสโนบายด้วยความเฉลียวฉลาด รอบคอบสุขุม คัมภีรภาพพระองค์ ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่ไม่ต้องตกเป็นอาณานิคม ดังประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายในยุคนั้น พระองค์ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เลิกระบบทาส ซึ่งได้ทรงวิริยะอุตสาหะ ดำเนินการอยู่ยาวนานถึง 20 ปีจึงสำเร็จ ปลดปล่อยทาสให้กลับไปเป็นไททั่วกันการทำนุบำรุงบ้านเมืองพระองค์ได้โปรดให้ทรงสร้างทางรถไฟจากกรุงเทพฯถึงจังหวัดนครราชสีมา เป็นสายแรก เพื่อเชื่อมทางคมนาคม กับหัวเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ทรงริเริ่มและพัฒนาระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการอาทิเช่น ระบบไฟฟ้า ประปา การสื่อสารโทรคมนาคม ฯลฯ ยังความสบายแก่พสกนิกรชาวไทยตราบจนปัจจุบัน ด้านการปกครอง พระองค์ได้ทรงปรับปรุง เปลี่ยนแปลงระบบการปกครองขึ้นใหม่ ทรงจัดตั้งสุขาภิบาลขึ้นในประเทศไทย และได้เป็นรากฐานของการปกครองท้องถิ่น ในรูปแบบเทศบาลมาจนถึงทุกวันนี้

พระราชกรณียกิจที่พะองค์ทรงบำเพ็ญประโยชน์ ตลอดแห่งรัชสมัยเป็นเวลา 42 ปี นอกจากที่ได้กล่าวมาโดยย่อนี้แล้วนี้ยังมีอีมากล้นเป็นเอนกนานับประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระองค์ได้เสด็จประพาสในที่ต่างๆทั่วราชอาณาจักรเพื่อสดับตรับฟังทุกข์สุข และความเป็นอยู่ของทวยราษฎรด้วยพระองค์เองจึงเป็นที่ชื่นชมโสมนัสอย่างยิ่ง จนได้รับพระราชสมัญญานาม จากไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ว่า "พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช"